วันศุกร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2552

ประวัติDORAEMON



Doraemon : โดเรม่อน
โดเรม่อน หรือโดราเอม่อน เป็นแมวหุ่นยนต์ในโลกอนาคต ยุคศตวรรษที่ 22 เกิดวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2655 มีน้ำหนัก 129.5 กก. ความสูง 129.3 ซม. กระโดดได้สูง 129.3 ซม. และยังวิ่งได้เร็วถึง 129.3 กม. / ชม. ลักษณะตัวอ้วนกลมสีน้ำเงิน ไม่มีใบหู เนื่องจากถูกหนูกิน ไม่มีนิ้วมือ มีกระดิ่งห้อยคอสีเหลือง มีหนวดหกเส้น มีกระเป๋าหน้าสำหรับเก็บของวิเศษ สารพัดอย่างที่สุดยอด อาหารที่ชอบที่สุดคือ แป้งทอด (โดรายากิ) สิ่งที่กลัวที่สุดคือ หนู

Nobita : โนบิตะ
โนบิตะ เป็นตัวละครหลักของเรื่อง เป็นเด็กผู้ชายขี้แยคนนึง เป็นคนไม่เอาถ่าน อ่อนแอ ไม่เคยพึ่งพาตนเอง เรียนหนังสือไม่เก่ง สอบได้ 0 บ่อยๆ มาโรงเรียนสายประจำ ถูกทำโทษบ่อยครั้ง ถือว่าเป็นตัวละครที่แย่มากๆ โนบิตะหลงรักชิซูกะ ซึ่งอยู่ในวัยเดียวกัน มีความหวังที่จะได้แต่งงานด้วยเมื่อเขาโตขึ้น แต่ก็มักจะมีอุปสรรค และมีคู่แข่งหลายคนเนื่องจากชิซูกะ เป็นเด็กน่ารัก และด้วยความอ่อนแอของโนบิตะเอง แต่โนบิตะ ได้เพื่อนรักคือโดเรม่อนคอยช่วยเหลือ ทำให้เขามีความมั่นใจมากขึ้น

Shizuka : ชิซูกะ
ชิซูกะ เป็นนางเอกของเรื่อง จัดว่าเป็นตัวละครที่น่ารักมาก เป็นที่หมายปองของเด็กทั่วไป รวมทั้งโนบิตะด้วย ซึ่งเขาหวังจะแต่งงานด้วยในอนาคต ชิซูกะเป็นคนที่ตรงข้ามกับโนบิตะโดยสิ้นเชิง เธอเป็นคนเรียนเก่ง สอบได้คะแนนดีมาก ชอบดนตรี และสิ่งที่ชอบมากที่สุดการได้อาบน้ำ ในอนาคตชิซูกะได้แต่งงานกับโนบิตะจริงๆ แต่โนบิตะในอนาคต เป็นโนบิตะที่เป็นผู้ใหญ่มีความรับผิดชอบ และเป็นคนดีจริงๆ สำหรับชิซูกะ

Zuneo : ซูเนโอะ
ซูเนโอะ เป็นตัวละครที่ถูกออกแบบให้มีลักษณะเจ้าเล่ห์ คล้ายๆ สุนัขจิ้งจอก ปากแหลม ชอบยุให้ไจแอนท์ รังแกโนบิตะ ซูเนโอะเป็นคนที่ชอบคุยโวโอ้อวด เนื่องจากเป็นคนมีฐานะร่ำรวย สิ่งที่เพื่อนๆ อยากได้ เขามีครบทุกอย่าง มักมีของแพงๆ มาอวดเพื่อนๆ มีญาติพี่น้องที่ค่อนข้างฐานะดี มีชื่อเสียง มักจะหาเรื่องแกล้งโนบิตะบ่อยๆ เนื่องจากเขาเองก็หลงรักชิซูกะด้วยเหมือนกัน

Dekizugi : เดคิซูกิ ไจแอน
เดคิซูกิ เป็นตัวละครที่สร้างขึ้นมาเพื่อให้ตรงกันข้ามกับโนบิตะโดยสิ้นเชิง รูปหล่อ เรียนเก่ง ขยัน อุปนิสัยดี เป็นที่หมายปองของเด็กหญิงทั่วไป เดคิซูกิ ชอบมาติวหนังสือให้กับชิซูกะเสมอ ทำให้โนบิตะต้องอิจฉา นอกจากนี้เขายังเป็นนักกีฬาและเป็นที่รักของคนทั่วไปอีกด้วย แต่บทบาทของเขาจะน้อยกว่าโนบิตะมาก

Dorami : โดเรมี
โดเรมี หุ่นยนต์น้องสาวของโดเรม่อน โดเรมีถูกสร้างขึ้นมาทีหลังโดเรม่อน ถือว่าเป็นรุ่นใหม่กว่า ทำให้มีประสิทธิภาพมากกว่าโดเรม่อน โดเรมี จะมีตัวสีเหลือ หูสีแดง มีกระเป๋าเก็บของวิเศษเหมือนโดเรม่อน แต่มีประสิทธิภาพมากกว่า โดเรมีจะอยู่ในโลกอนาคตมากกว่า ไม่ค่อยปรากฏในโลกปัจจุบัน ยกเว้นในกรณีเหตุการณ์คับขัน ที่โดเรม่อนไม่สามารถแก้ไขได้ โดเรมีก็จะมาคอยช่วยเหลือเสมอๆ

วันอังคารที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2552

Silly Fools




Silly Fools หรือมีชื่อย่อว่าที่เรียกขานกันว่า SF แต่เดิมวงมีชื่อว่า Silly Foolish โดยมี ต้น เป็นผู้ก่อตั้งวง งานชุดแรกออกกับค่ายเบเกอรี่มิวสิก ในปี 2539 ชุด E.P. และอัลบั้มที่เหลือออกกับค่ายมอร์มิวสิค/แกรมมี่ ทั้งหมด Silly Fools มีสมาชิกในวงทั้งหมด 4 คน ซึ่งมีได้การเปลี่ยนสมาชิกในตำแหน่งมือกลองภายในวงเกิดขึ้น โดยที่ 2 ชุดแรก คือ E.P. และ I.Q. 180 ตำแหน่งกลองคือ เต้ย กอบภพ ใบแย้ม ได้เปลี่ยนมาเป็น ต่อ ต่อตระกูล ใบเงิน ตั้งแต่ชุด Candyman จนถึงอัลบั้มล่าสุด
วันที่ 26 มิถุนายน 2549 : โต ณัฐพล (ร้องนำ) ได้ออกมาแถลงข่าวเรื่องออกจากวง
วันที่ 12 พฤศจิกายน 2549 : Silly Fools กับนักร้องใหม่ซึ่งยังไม่เปิดเผยว่าเป็นใคร ใส่หน้ากากขึ้นเล่นเพลงใหม่ 2 เพลง เนื้อร้องภาษาอังกฤษ ในคอนเสิร์ต FaT Festival
วันที่ 21 ธันวาคม 2549 : Silly Fools ต้น หรั่ง ต่อ เริ่มโปรโมตอัลบั้มใหม่ตามสื่อต่างๆ ทั้งหนังสือพิมพ์ และได้ไปออกรายการวิทยุตามสถานีต่างๆ เกี่ยวกับอัลบั้มใหม่ที่จะวางแผงในต้นปีหน้า ในชื่อชุดว่า "Mini" เป็นเพลงภาษาอังกฤษจำนวน 5 เพลง ซึ่งนักร้องคือ Benjamin Jung Tuffnell โดยมีเพลง Stay Away เป็นเพลงเปิดตัว ซึ่งเคยร้องมาแล้วในคอนเสิร์ต FaT ที่ผ่านมา
วันที่ 21 มกราคม 2550 : เปิดตัวกับผลงานชุดล่าสุด "Mini" โดยชุดนี้จัดทำซีดีจำหน่ายเพียง 3,000 แผ่น และในวันนี้จำหน่ายก่อน 1,000 แผ่น โดยที่ 300 คนแรกจะได้เข้าชมมินิคอนเสิร์ตเปิดอัลบั้มใหม่และนักร้องใหม่
วันที่ 26 มกราคม 2550 : ชุด Mini วางแผงทั่วประเทศจำนวน 2,000 แผ่น
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2550 : วางแผ่นปกติ E.P.ชุด Mini มี 4 ปก
และเร็วๆ นี้ กับผลงานใหม่ ภายใต้บ้านหลังใหม่ อย่างบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) โดย ต่อ มือกลองวง Silly Fools ได้ประเดิมผลงานชิ้นแรก กับการทำงานดนตรีให้อัลบั้มที่ 3 ของ เม-จีระนันท์
วันที่ 31 มกราคม 2551 ซิงเกิ้ลแรกของอัลบั้มใหม่ ในชื่อเพลง "เราเป็นคนเลือกเอง" ถูกเปิดออกอากาศทาง Seed FM 97.5 เป็นครั้งแรก โดยอัลบั้มชุดใหม่ใช้ชื่อว่า "The One" พร้อมทีเซอร์เปิดตัวในรูปแบบแอนิเมชั่น ซึ่งสามารถเข้าไปชมได้ที่ Myspace ของทางวง และอัลบั้มใหม่จะวางแผงประมาณเดือนมีนาคม




วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ตุ๊กตาบลายธ์


Blythe”(บลายธ์) คือตุ๊กตาวินเทจที่ถูกออกแบบขึ้นในปี 1972 โดย Kenner โรงงานผลิตของเล่นในอเมริกา ที่ต้องการสร้างตุ๊กตาให้ต่างจากตุ๊กตาทั่วไปด้วยโมเดลตุ๊กตา 4 แบบ ชื่อ Blythe, Karess, Willow และ Skye พร้อมแฟชั่นเครื่องแต่งกายกว่า 12 ชุด โดดเด่นด้วยดวงตากลมโตที่เปลี่ยนสีได้ 4 สี เขียว ชมพู ส้ม และน้ำเงิน เพียงแค่ดึงห่วงที่อยู่หลังศีรษะ แต่มันกลับเป็นตุ๊กตาที่เด็กๆ หวาดกลัว ด้วยเหตุนี้จึงทำให้บลายธ์ไม่เป็นที่นิยม จนต้องปิดตัวลงหลังวางขายได้เพียง 1 ปี
30 ปีต่อมา จากสินค้าค้างสต๊อกกลับเป็นตุ๊กตาหายากที่ได้รับความนิยมในหมู่นักสะสม หลังจากที่เพื่อนสนิทของ Gina Garan (โปรดิวเซอร์สาวชาวอเมริกัน) ได้มอบตุ๊กตาเป็นของขวัญ เธอก็ตกหลุมรักมัน เริ่มพามันเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ขณะเดียวกันเธอก็เริ่มฝึกถ่ายภาพจากกล้อง SLR โดยมี Blythe เป็นนางแบบจนถูกตีพิมพ์เป็นหนังสือรวมภาพถ่ายชื่อ This is Blythe รวมถึงหนังสือ Firecracker Alternative Book ที่ขายได้กว่า 100,000 เล่มในปี 2001
หลังจากที่ Hasbro ผู้สืบทอดกิจการจาก Kenner ได้มอบลิขสิทธิ์การผลิตตุ๊กตาให้บริษัท Takara ประเทศญี่ปุ่น Blythe ก็เริ่มเป็นที่รู้จักและกลายเป็นตุ๊กตายอดนิยมของคนญี่ปุ่น จากการเป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาทีวีให้กับห้างดัง Parco จนกลายเป็นกระแส Blythe ฟีเวอร์ ได้รับความสนใจจากคนในแวดวงแฟชั่น มีการระดมสุดยอดดีไซเนอร์มาร่วมออกแบบเสื้อผ้าตัวจิ๋วให้เหล่านางแบบ Blythe ได้สวมเดินเฉิดฉายอยู่บนแคตวอล์กกลางกรุงโตเกียว ในปี 2001 Takara ได้รับหน้าที่แปลงโฉม Blythe ให้โดดเด่นขึ้นด้วยขนาดตัว 11 นิ้ว พร้อมชื่อใหม่ “Neo Blythe” และนับแต่นั้นมาก็มีคอลเลกชั่นต่างๆ ของ Neo Blythes ขึ้นมากมาย นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัว Blythe สายพันธ์ใหม่ “Petite Blythe” ด้วยขนาดตัวที่เล็กกะทัดรัดเพียง 4 1/2 นิ้ว ปิดท้ายด้วย Blythe Belle ตุ๊กตาพีวีซีที่จำลองและย่อส่วนขนาดของ Blythe ให้เหลือเพียงแค่ 3 นิ้ว